การเตรียมตัวเที่ยวญี่ปุ่น
เรื่องทั่วไป
สภาพอากาศที่ญี่ปุ่น
ฤดูของประเทศเกาหลีจะแบ่งออกเป็น 4 ฤดูกาล
- ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มในเดือนมีนาคม เมื่อต้นไม้เริ่มผลิดอกออกใบ ช่วงกลางวันเริ่มอุ่นขึ้น ประมาณปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน จะเป็นช่วงเทสกาลชมดอกซากุระ ซึ่งจะทยอยบานในแต่ละเมืองเป็นลำดับ
- ฤดูร้อน เริ่มจากเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนกันยายน ช่วงต้นฤดูร้อนระยะเวลาจะสั้นกับวันที่ร้อนและปลอดโปร่ง แล้วจึงเป็นช่วงฤดูฝน ซึ่งจะมีฝนตกแทบทุกวัน ฤดูร้อนโดยรวมจะร้อนและชื้นทั่วญี่ปุ่น ยกเว้นฮอกไกโด อากาศจะไม่มาก
- ฤดูใบไม้ร่วง เริ่มจากเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน สภาพอากาศจะเริ่มแห้งและเย็นลง จะมีฝนตกเป็นครั้งคราว และอาจจะมีลมแรงหรือไต้ฝุ่น ช่วงประมาณตุลาคม ใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสี เป็นช่วงที่นักเที่ยวนิยมท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
- ฤดูหนาว เริ่มจากปลายเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่หิมะเริ่มตก อากาศจะหนาวเย็น ทุกที่จะปกคลุมด้วยหิมะ โดยเฉพาะในทางภาคเหนือ น้ำในแม่น้ำลำคลอง และทะเลสาป บางแห่งจะกลายเป็นน้ำแข็ง ส่วนบนภูเขาก็จะมีการ เล่นสกีกัน ในเมืองซัปโปโร ที่เกาะฮอกไกโด จะมีงาน “เทศกาลหิมะ” จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากจากทั่วโลกที่จะมาชมการการประกวดปั้นหิมะ เป็นรูปสถาปัตยกรรม
การแต่งกายไปญี่ปุ่น
ควรจัดเตรียมเสื้อผ้าไว้สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวที่จำเป็น และเหมาะกับสภาพอากาศตามอุณหภูมิของ ช่วงการเดินทาง เช่น เสื้อโค้ช เสื้อกันหนาว เสื้อแขนยาว / ผ้าพันคอ หมวก ถุงมือ รองเท้าสวมใส่สบาย, ถุงเท้า. ครีมทาผิว,ลิปมัน, หมวก, ร่ม (อุปกรณ์กันหนาว)
จัดกระเป๋าเดินทาง
น้ำหนักของกระเป๋าเดินทางไม่ควรเกิน 20 กิโลกรัม ต่อ 1 ท่าน หากน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนดไว้ ทางสายการบินจะเรียกเก็บค่าน้ำหนักเพิ่ม ประมาณกิโลกรัมละ 400–500 บาทโดยประมาณ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขอื่นของทางสายการบินนั้นๆ ส่วนกระเป๋าสตางค์ / เครื่องคอมพิวเตอร์ / เครื่องประดับ / พาสปอร์ต์ / บัตรเครดิต / เอกสารสำคัญ / กล้องถ่ายรูป และกล้องวีดีโอ / ยาประจำตัว ติดตัวเสมอ ของเหลวนำขึ้นเครื่องทุกประเทศ จะต้องบรรจุในบรรจุภัณฑ์และมีปริมาณไม่เกิน 100 มิลลิลิตร
เงินสำหรับในจ่าย
ญี่ปุ่นใช้เงินสกุล “เยน” โดยเงินเหรียญมีตั้งแต่ 1 / 5 / 10 / 50 / 100 และ 500 เยน ธนบัตรมี ตั้งแต่ 1,000 / 5,000 และ 10,000 เยน สำหรับเงิน ดอลล่าร์สหรัฐ (USD) สามารถแลกได้ตาม ธนาคาร และ โรงแรมทุกแห่ง ในอัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนอยู่ที่ (100 เยน ประมาณ 28 บาท) (ควรเช็คกับทางธนาคารหรือสถานที่ที่ให้บริการแลกอีกครั้ง)

บัตรเครดิตคาร์ดสามารถนำไปใช้กับร้านค้าปลอดภาษีหรือร้านค้าหรือห้างสรรพสินค้าในเมืองสำคัญ
เรื่องอื่นๆ ที่น่ารู้
เวลา
ประเทศญี่ปุ่นเวลาเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง หากเดินทางไปถึงแล้ว อย่าลืมปรับนาฬิกา เพื่อความสะดวกในการนัดหมาย กับหัวหน้าทัวร์ / ไกด์ หรือเดินทางขึ้นเครื่องกลับ เพื่อไม่ให้พลาดในสิ่งสำคัญต่างๆ ระหว่างการเดินทาง
กระแสไฟฟ้าในญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นใช้กระแสไฟฟ้า 100 โวลท์ ชนิดกระแสสลับทั่วประเทศเฉพาะเมืองใหญ่ จะมีปลั๊กไฟ 2 ระบบ คือ 110 โวลท์ กับ 220 โวลท์ เต้าเสียบจะเป็น ชนิดสองขาแบบแบน เท่านั้น

โทรศัพท์
บริการด้านโทรศัพท์ บัตรโทรศัพท์มีขายทั่วไปตามเคาน์เตอร์โรงแรม, ซุปเปอร์มาร์เก็ต และสถานที่ท่องเที่ยว ราคาเริ่ม 1,000 เยน โทรกลับประเทศไทย กรุงเทพฯ : 001-010-662-หมายเลขโทรศัพท์เจ็ดหลัก ต่างจังหวัด : 001-010-66 ตามด้วยรหัสเมืองโดยตัดศูนย์ออก-หมายเลขโทรศัพท์หกหลัก โทรภายในญี่ปุ่น : รหัสเมือง / มือถือ – หมายเลขโทรศัพท์
น้ำประปา
เมืองต่างๆ ในญี่ปุ่นมีบริการน้ำประปาไว้ให้และน้ำประปาทุกแห่งปลอดภัยสามารถดื่มได้
ช้อปปิ้ง
ร้านค้าโดยทั่วไปเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 – 20:00 นาฬิกาห้างสรรพสินค้าจะปิดทำการในวันธรรมดา 1 วันต่อสัปดาห์ วันหยุดของห้างจะไม่ตรงกัน ทุกห้าง โปรดสังเกตว่าห้างสรรพสินค้ามักจะปิดเร็วกว่าร้านค้าอื่นๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง (ราวๆ 19:00 นาฬิกา)
ธรรมเนียมการทิป
การให้ทิปในต่างประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญ และมารยาทของนักท่องเที่ยวควรให้ทิปสำหรับคนที่ให้บริการท่าน อาทิคนขับรถ / ไกด์ท้องถิ่น ที่คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ท่านระหว่างการเดินทาง
ตรวจคนเข้าเมือง
เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของญี่ปุ่น จะพิจารณาให้เฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวโดยสุจริตเท่านั้นที่ผ่านเข้าเมืองได้ และอาจต้องพิจารณาประกอบกับหลักฐานเพิ่มเติม อาทิ บัตรประชาชน, บัตรพนักงาน หรือเครดิตการ์ด เป็นต้น
ด่านศุลกากร
ก่อนที่จะนำกระเป๋าออกจากสนามบินเพื่อเข้าประเทศญี่ปุ่นนั้น จะต้องผ่านด่านศุลกากร ซึ่งจะแบ่งเป็นสองส่วน คือส่วนสีแดงสำหรับผู้ที่มีสิ่งของต้องสำแดง กับส่วนสีเขียวสำหรับผู้ที่ไม่มีสิ่งของต้องสำแดง เจ้าหน้าที่จะตรวจเช็คสิ่งของที่นำเข้าประเทศว่าเป็นสิ่งของต้องห้ามหรือไม่ รวมถึงจำนวนสิ่งของที่นำเข้าบางอย่างที่มีการจำกัดปริมาณการนำเข้า เช่น เหล้า บุหรี่ น้ำหอม ของที่ระลึก หากตีราคารวมกันแล้วเกินกำหนดก็จะต้องเสียภาษี เมื่อออกจากด่านศุลกากรแล้ว ก็เป็นอันเสร็จพิธีการเข้าเมือง